Krungthep Marathon : The Winner
ก้าวที่หนึ่งของ “กรุงเทพมาราธอน”
แรกเริ่มเลยมีสมาชิกเพียงแค่ 2 คน คือ ปายกับนะ และเคยได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่เป็นเพลงบรรเลงไปวางขายที่งานแฟตเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ฟอร์มเป็นแบนด์อย่างเต็มตัวเหมือนในตอนนี้ จากนั้นเราจึงไปชวนอู๋เข้ามาร่วมวงด้วย แล้วก็เริ่มทำเพลงกันมาเรื่อยๆ ซึ่งพวกผมรู้จักกับพี่บอล วงอพาร์ทเม้นท์คุณป้า ซึ่งได้แนะนำให้รู้จักกับสมาชิกคนสุดท้ายของวง ที่ทำหน้าที่ร้องนำ คือ พี่เต้ มารวมตัวเป็นคนสุดท้าย จากการแนะนำของของบุรินทร์ ให้มารู้จักกับพี่บอล และสมาชิกคนอื่นในวงและตอนนี้วงกรุงเทพมาราธอน ก็พร้อมวิ่งเข้าเส้นชัยแล้วครับหลังจากที่ทั้งฟอร์มละวงทำงานเพลงมานาน
อุปสรรคของ “กรุงเทพมาราธอน”
เรื่องเวลาของแต่ละคน บางคนก็ต้องทำงานประจำ บางคนก็ยังเรียนอยู่ ก็ต้องหาเวลาว่างมาเจอกันเพื่อซ้อมและทำงานเพลง และยังต้องใช้เวลาในการปรับจูนให้เข้ากันได้ทั้ง 4 คน นานเหมือนกัน ต้องอาศัยการซ้อมบ่อยๆ ให้ทุกเพลงที่เราทำอยู่มีจุดตรงกลางที่พวกเราทุกคนสามารถอยู่รวมกันได้ และได้กลายมาเป็น กรุงเทพมาราธอน อย่างในวันนี้ เริ่มแรกก็เจออาการท้อๆ ของพี่เต้ว่าจะเป็นจุดด้อยที่สุดในวงหรือเปล่า แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวมาก เพราะว่าไลฟ์สไตล์ของพี่เต้เค้าจะเป็นแนวร็อคเพียวๆ เลย พอได้มาจูนในเรื่องการร้อง, เทคนิค, คีย์เพลง สักพักก็ลงตัว
ทำไมต้อง “กรุงเทพมาราธอน”
ตอนนะกับปายเดินเข้าไปเสนอเพลงก็ยังไม่มีชื่อวงครับ จริงๆ แล้วกรุงเทพมาราธอน เต้ยังรู้สึกเฉยๆ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นความผูกพันไปแล้ว มันเป็นที่มาของพวกเราด้วย คือ พวกเรามาเจอกันที่กรุงเทพ และแต่ละคนก็มีความฝันเดียวกันคืออยากทำงานเพลง มีอัลบั้มของตัวเองและอุปสรรคก็มีมาเหลือเกิน แต่ว่าตอนนี้พวกเราวิ่งมาถึงเส้นชัยแล้ว ผมว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัว
คำจำกัดความของ “กรุงเทพมาราธอน”
ทุกเพลงทุกทำนอง คือ กรุงเทพมาราธอน พวกเราทั้ง 4 คน เหมือนจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นที่มาเรียงต่อและสมบูรณ์แบบเป็นภาพที่พวกเราชอบและอยากให้มันเป็น เพราะดนตรีไม่มีคำจำกัดอยู่แล้วครับในความคิดของพวกเรา
Single แรก “อีกคนและอีกคน”
เพลงนี้ในส่วนของดนตรี พวกเรา 3 คน ทำมาก่อนคือ ปาย, นะ และอู๋ โดยได้คอนเซ็ปมาจากพี่เต้ ว่าอยากให้เรื่องราวในเพลงเป็นแบบนี้ จากนั้นพี่โตนโซฟา ก็นำทั้งหมดของพวกเราไปช่วยเขียนเนื้อให้และออกมาเป็นเพลง “อีกคนและอีกคน” เพลงที่พูดถึงกิเลสของคน ที่บางทีไม่รู้จักพอในความรัก พวกเราว่า...ความรักบางทีมันต้องรู้จักคำว่า “พอ” บ้าง ไม่ใช่แค่กับรัก แต่ควรรู้จักคำว่า “พอ” บ้าง ไม่ใช่แค่กับรัก แต่ควรรู้จักคำว่า “พอ” กับทุกอย่าง โลกจะได้ไม่วุนวายเหมือนทุกวันนี้
ก้าวที่หนึ่งของ “กรุงเทพมาราธอน”
แรกเริ่มเลยมีสมาชิกเพียงแค่ 2 คน คือ ปายกับนะ และเคยได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่เป็นเพลงบรรเลงไปวางขายที่งานแฟตเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ฟอร์มเป็นแบนด์อย่างเต็มตัวเหมือนในตอนนี้ จากนั้นเราจึงไปชวนอู๋เข้ามาร่วมวงด้วย แล้วก็เริ่มทำเพลงกันมาเรื่อยๆ ซึ่งพวกผมรู้จักกับพี่บอล วงอพาร์ทเม้นท์คุณป้า ซึ่งได้แนะนำให้รู้จักกับสมาชิกคนสุดท้ายของวง ที่ทำหน้าที่ร้องนำ คือ พี่เต้ มารวมตัวเป็นคนสุดท้าย จากการแนะนำของของบุรินทร์ ให้มารู้จักกับพี่บอล และสมาชิกคนอื่นในวงและตอนนี้วงกรุงเทพมาราธอน ก็พร้อมวิ่งเข้าเส้นชัยแล้วครับหลังจากที่ทั้งฟอร์มละวงทำงานเพลงมานาน
อุปสรรคของ “กรุงเทพมาราธอน”
เรื่องเวลาของแต่ละคน บางคนก็ต้องทำงานประจำ บางคนก็ยังเรียนอยู่ ก็ต้องหาเวลาว่างมาเจอกันเพื่อซ้อมและทำงานเพลง และยังต้องใช้เวลาในการปรับจูนให้เข้ากันได้ทั้ง 4 คน นานเหมือนกัน ต้องอาศัยการซ้อมบ่อยๆ ให้ทุกเพลงที่เราทำอยู่มีจุดตรงกลางที่พวกเราทุกคนสามารถอยู่รวมกันได้ และได้กลายมาเป็น กรุงเทพมาราธอน อย่างในวันนี้ เริ่มแรกก็เจออาการท้อๆ ของพี่เต้ว่าจะเป็นจุดด้อยที่สุดในวงหรือเปล่า แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวมาก เพราะว่าไลฟ์สไตล์ของพี่เต้เค้าจะเป็นแนวร็อคเพียวๆ เลย พอได้มาจูนในเรื่องการร้อง, เทคนิค, คีย์เพลง สักพักก็ลงตัว
ทำไมต้อง “กรุงเทพมาราธอน”
ตอนนะกับปายเดินเข้าไปเสนอเพลงก็ยังไม่มีชื่อวงครับ จริงๆ แล้วกรุงเทพมาราธอน เต้ยังรู้สึกเฉยๆ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นความผูกพันไปแล้ว มันเป็นที่มาของพวกเราด้วย คือ พวกเรามาเจอกันที่กรุงเทพ และแต่ละคนก็มีความฝันเดียวกันคืออยากทำงานเพลง มีอัลบั้มของตัวเองและอุปสรรคก็มีมาเหลือเกิน แต่ว่าตอนนี้พวกเราวิ่งมาถึงเส้นชัยแล้ว ผมว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัว
คำจำกัดความของ “กรุงเทพมาราธอน”
ทุกเพลงทุกทำนอง คือ กรุงเทพมาราธอน พวกเราทั้ง 4 คน เหมือนจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นที่มาเรียงต่อและสมบูรณ์แบบเป็นภาพที่พวกเราชอบและอยากให้มันเป็น เพราะดนตรีไม่มีคำจำกัดอยู่แล้วครับในความคิดของพวกเรา
Single แรก “อีกคนและอีกคน”
เพลงนี้ในส่วนของดนตรี พวกเรา 3 คน ทำมาก่อนคือ ปาย, นะ และอู๋ โดยได้คอนเซ็ปมาจากพี่เต้ ว่าอยากให้เรื่องราวในเพลงเป็นแบบนี้ จากนั้นพี่โตนโซฟา ก็นำทั้งหมดของพวกเราไปช่วยเขียนเนื้อให้และออกมาเป็นเพลง “อีกคนและอีกคน” เพลงที่พูดถึงกิเลสของคน ที่บางทีไม่รู้จักพอในความรัก พวกเราว่า...ความรักบางทีมันต้องรู้จักคำว่า “พอ” บ้าง ไม่ใช่แค่กับรัก แต่ควรรู้จักคำว่า “พอ” บ้าง ไม่ใช่แค่กับรัก แต่ควรรู้จักคำว่า “พอ” กับทุกอย่าง โลกจะได้ไม่วุนวายเหมือนทุกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น